แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 35
1
การจัดฟันเด็กเล็ก มีความเสี่ยงหรือไม่ ?

ต้องบอกเลยว่ามีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับการจัดฟันในเด็กเล็ก และส่วนใหญ่จะเป็นความเชื่อในด้านลบ โดยผู้ใหญ่หลายๆท่านจะมองว่า เด็กเล็กจะจัดฟันไปทำไม เพราะเดี๋ยวฟันน้ำนมก็หลุด เชื่อมโยงไปถึงการมองข้ามคุณค่าประโยชน์และผลกระทบที่ตามมาของฟันน้ำนม ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่ผิดเป็นอย่างมาก

จากการศึกษาวิจัยทางด้านทันตกรรมมาโดยตลอดต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ฟันและเหงือกมีความสำคัญมากตั้งแต่แรกเกิด จึงควรที่จะทำการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากตั้งแต่แรกเกิดเสียด้วยซ้ำ

ถึงแม้ความความเป็นจริงฟันน้ำนมจะโยกคลอนและหลุดไปตามธรรมชาติ แต่หากว่าดูแลรักษาไม่ดีตั้งแต่ช่วงฟันน้ำนม ก็จะส่งผลเสียถึงฟันแท้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งในวันนี้จึงขออนุญาตมาไขข้อสงสัย เกี่ยวกับการจัดฟันในเด็ก และความสำคัญของฟันน้ำนมที่หลายๆท่ายังเข้าใจผิดว่าไม่สำคัญ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


เด็กเล็กควรเริ่มจัดฟันตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?

ต้องขอบอกเพียงสั้นๆว่า ยิ่งจัดฟันเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี และมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น เนื่องจากว่านวัตกรรมทางด้านทันตกรรมถือว่าก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากว่าคนส่วนใหญ่บนโลกได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพช่องปากเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และถือว่าเป็นคำถามหลักของผู้ปกครองว่า บุตรหลานต้องมีอายุเท่าไหร่ถึงควรทำการจัดฟันได้

ซึ่งทางด้านของสมาคมทันตแพทย์ประเทศออสเตรเลียได้กล่าวไว้เมื่อนานมาแล้วว่า เด็กเล็กที่มีปัญหาเรื่องการสบฟันที่ผิดปกติ หรือขากรรไกรที่ไม่เป็นธรรมชาติ อย่างช้าควรเริ่มทำการจัดฟันที่อายุประมาณ 7 ขวบ เพราะถือได้ว่าเป็นช่วงวัยที่โครงสร้างต่างๆสามารถรักษาได้ง่าย เพราะยังไม่สิ้นสุดการเจริญเติบโต หากช้าไปกว่านี้อาจจะทำให้การจัดฟันจนเข้ารูปถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเข้าไปอีก


“EF Line” เครื่องมือจัดฟันเด็กเล็กที่ทันตแพทย์ทั่วโลกแนะนำ

อย่างที่ทราบกันดีว่าโลกในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ๆถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นตามลำดับ อุปกรณ์จัดฟันก็เช่นกัน เพราะเป็นหนึ่งในปัญหาที่มักพบเป็นอันดับต้นๆของผู้ที่ทำการรักษาโรคต่างๆเกี่ยวกับช่องปาก

ซึ่งนวัตกรรม EF Line นี้ถือว่าทำออกมาเพื่อตอบสนองการจัดฟันในเด็กเล็กๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งอุปกรณ์จัดฟัน EF Line นี้ถูกออกแบบมาให้แก้ปัญหาแบบครอบคลุมสำหรับเด็กเล็กที่มีอายุตั้งแต่ 4 ขวบ จนกระทั่งถึง 15 ปี ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมาก

ซึ่งอุปกรณ์จัดฟัน EF Line นี้ไม่ได้เพียงแต่จัดฟันเด็กเล็กให้เข้ารูป แต่ยังสามารถแก้ปัญหาเรื่องโครงสร้างใบหน้าที่ผิดปกติ เช่น คางยุบ คางเบี้ยว รวมถึงพฤติกรรมที่จะทำให้โครงสร้างฟันมีปัญหา เช่น การกลืนอาหารผิดวิธี การวางลิ้นผิดตำแหน่ง และการดูดนิ้ว เป็นต้น

EF Line จึงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางทันตกรรมที่ลบความเชื่อผิดๆของผู้ใหญ่หลายๆท่านว่า ไม่ควรจัดฟันตอนเด็กได้อย่างสิ้นเชิง เพราะประสิทธิภาพของอุปกรณ์ชนิดนี้สูงจนทำให้หลายๆท่านเปลี่ยนความคิดและเห็นความสำคัญของฟันเด็กเล็กกันไปเลยทีเดียว


ระวังหากรอช้าไม่รีบจัดฟันในวัยเด็กเล็ก

– ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ฟันน้ำนมไม่ได้สำคัญ มีปัญหาก็ถอนทิ้ง ถือค่อยทำการรักษาตอนที่โตแล้วมีฟันแท้ขึ้นทั้งปาก ซึ่งนั่นคือความเข้าใจผิดและอาจจะสายเกินไปที่จะทำการรักษาแก้ไข เพราะฟันน้ำนมถือได้ว่ามีบทบาทมากๆต่อการเรียงตัวและรูปทรงของฟันแท้

– การจัดฟันตั้งแต่ที่ยังอายุน้อยๆ ถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหา และลดความรุนแรง ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่อายุมากขึ้น การจัดฟันควรเริ่มตั้งแต่ในวัยประถม หากรอให้ถึงวัยมัธยมอาจจะสายเกินไป และความรุนแรงของการผิดปกติก็อาจจะมีมากขึ้นไปด้วยตามลำดับ

– ในปัจจุบันจากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยที่ดีขึ้น พบได้ว่าวัยรุ่น อายุประมาณ 18  ปีขึ้นไป จำนวนมากมีปัญหาเรื่องขนาดของขากรรไกร อาจเกี่ยวกับการรับประทาน หรือความเคยชินในพฤติกรรมวัยเด็กก็ตาม ทันตแพทย์ส่วนใหญ่จะไม่แนะนำให้ทำการจัดฟัน เพราะอาจจะทำให้อาการผิดปกติยิ่งแย่ลงไปอีก แต่ทันตแพทย์จะให้ทำการรอดูอาการอย่างใกล้ชิดเป็นระยะเวลาหนึ่งเมื่อพร้อมถึงจะเริ่มการจัดฟัน ต่างกับเด็กเล็กๆที่ทันตแพทย์จะแนะนำให้รีบทำการจัดฟันในทันที

2
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


3
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


4
รถยนต์ไฟฟ้า CHANGAN กวาดยอดขายทั่วโลกทะลุ 2.68 ล้านคัน ในปี 2567 สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการในรอบ 7 ปี

CHANGAN Automobile ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในโอกาสครบรอบ 40 ปี กับยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปี 2567 ที่ผ่านมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.683 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและเป็นยอดขายสูงสุดในรอบ 7 ปี สานต่อกลยุทธ์ ความก้าวหน้าและการขยายตัวอย่างมั่นคง (Steady Progress and Expansion) ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง สะท้อนถึงความสำเร็จของ CHANGAN ในการดำเนินงานอันแข็งแกร่ง ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก 3 แบรนด์หลัก และ 3 สายการผลิตหลัก การันตีด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มธุรกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์รถยนต์อันหลากหลายที่มียอดขาย 2.23 ล้านคัน ทั้งยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) เพิ่มขึ้น 52.8% เป็น 734,516 คัน และยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 49.6% เป็น 536,196 คัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ CHANGAN ในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ตลอดจนความสำเร็จในการก้าวเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมอัจฉริยะ ปล่อยคาร์บอนต่ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เขย่าวงการด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จผ่านสามแบรนด์และสามผลิตภัณฑ์
ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ของ CHANGAN พุ่งสูงถึงกว่า 100,000 คันในเดือนพฤศจิกายน 2567 เข้าสู่ช่วงการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า Mission of Shangri-La กลยุทธ์เพื่อการพัฒนาแบบอัจฉริยะ “Dubhe Plan” และกลยุทธ์การขยายธุรกิจทั่วโลก “Vast Ocean Plan” รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม พร้อมการสร้างแบรนด์ทั้งหมด 3 แบรนด์ ได้แก่ AVATR, DEEPAL และ CHANGAN ที่มาพร้อมรถยนต์ 3 รุ่นได้แก่ CHANGAN UNI, CHANGAN NEVO และ CHANGAN LCV สร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย เสริมศักยภาพการแข่งขันในระดับโลกมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการเติบโตและเพิ่มมูลค่าให้แก่ CHANGAN Automobile อย่างรอบด้าน

AVATR ซึ่งวางตำแหน่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับไฮเอนด์ มาพร้อมพลังขับเคลื่อนสองระบบ ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในปี 2567 กับยอดขาย 73,606 คัน เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยผลงานในไตรมาส 4 โดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยยอดขายเกิน 10,000 คันติดต่อกันสามเดือน และสร้างสถิติใหม่สูงถึง 11,067 คัน ในเดือนธันวาคม ขณะที่ AVATR ยังประสบความสำเร็จอันโดดเด่นในตลาดทุน โดยได้รับเงินลงทุน Series C กว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมความร่วมมือเชิงลึกจาก CATL และพันธมิตรอื่นๆ ที่ช่วยขับเคลื่อน AVATR ให้ก้าวสู่ปี 2568 อย่างแข็งแกร่ง

DEEPAL ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และครอบครัวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยภาพลักษณ์แบรนด์ที่ทันสมัยและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี โดยปี 2567 ที่ผ่านมา DEEPAL ส่งมอบรถยนต์รวมทั้งสิ้น 243,800 คัน พร้อมสถิติส่งมอบสูงสุดที่ 36,577 คันในเดือนธันวาคม ซึ่งในช่วงปลายเดือนเดียวกัน DEEPAL ได้ผลิตรถยนต์คันที่ 400,000 ทำลายสถิติอุตสาหกรรมด้วยในระยะเวลาเพียง 29 เดือน ทั้งนี้ จากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ DEEPAL S05, DEEPAL S07 และ DEEPAL L07 ทำให้ DEEPAL ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกสำหรับปี 2568 ที่ 500,000 คัน

CHANGAN NEVO ยนตรกรรมใหม่ในยุคดิจิทัล ทำยอดขายสะสมในปี 2567 ได้ 146,300 คัน โดยในเดือนธันวาคมสามารถทำยอดขายได้กว่า 16,667 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี CHANGAN NEVO ได้ก้าวข้ามสถานะจาก น้องใหม่ สู่ ผู้สร้างมาตรฐานใหม่ และได้รับการยอมรับอย่างสูงจากผู้บริโภคกับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ด้าน คุณค่าที่เหนือชั้นและการส่งมอบที่ตรงจุด ในปี 2568 CHANGAN NEVO จะเปิดตัวรถ SUV ขนาดกลาง-ใหญ่รุ่นใหม่รหัส C798 หรือชื่ออย่างเป็นทางการ Q07 พร้อมด้วยรถยนต์อีก 2 รุ่น รหัส C390 และ B216

CHANGAN UNI ยังคงรักษาโมเมนตัมของแบรนด์คลาสสิก โดย CS75 PLUS รุ่นที่ 4 มียอดขายรายเดือนของซีรีส์ CS75 ทะลุ 30,000 คัน ส่วน CHANGAN LCV ที่มุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการขนส่งอัจฉริยะคาร์บอนต่ำ กวาดยอดขายในปี 2567 ได้ถึง 221,000 คัน พร้อมปรับโฉมโลโก้แบรนด์เป็น "Cube Logo" ทั้งยังก้าวเข้าสู่ตลาดทุนอย่างมั่นคงหลังจากระดมทุน Series A ไปกว่า 2,000 ล้านหยวน

เดินหน้าเติบโตอย่างมั่นคงพร้อมความสำเร็จด้านนวัตกรรมดิจิทัลในปี 2567
CHANGAN Automobile เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2567 ผ่านการเปลี่ยนผ่านเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจน การปรับโครงสร้างองค์กรเป็นระยะ และยกระดับคุณภาพการดำเนินงาน สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านยานยนต์พลังงานใหม่และยานยนต์อัจฉริยะ

CHANGAN เดินหน้าอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยและพัฒนา สร้างเครือข่ายระดับโลก 10 แห่งใน 6 ประเทศ พร้อมทีมงานกว่า 18,000 คนจาก 31 ประเทศและภูมิภาค ทั้งยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนา 16 แห่ง และบริษัทเทคโนโลยีอีก 17 แห่ง พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญกว่า 2,251 รายการ เช่น การโต้ตอบอย่างเป็นธรรมชาติ การขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง และการทดสอบระบบไฟฟ้า โดย CHANGAN ได้รับการยกย่องจากศูนย์เทคโนโลยีวิสาหกิจแห่งชาติ (National Enterprise Technology Center) ว่ามีศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมติดต่อกัน 14 ปีจากการประเมิน 7 ครั้ง นอกจากนี้ CHANGAN กำลังก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลกเฟส 2 เพื่อมุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำด้านการวิจัยศาสตร์และศิลป์ในอุตสาหกรรมยานยนต์จีน

CHANGAN ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ลงทุนในแบตเตอรี่โซลิดสเตต (Solid-state Battery) จัดตั้งสถาบันวิจัยแบตเตอรี่ล้ำสมัย สร้างแบรนด์แบตเตอรี่ "Golden Shield" พร้อมเซลล์แบตเตอรี่มาตรฐานประสิทธิภาพสูง ผลิตเทคโนโลยีชาร์จเร็วแรงดันสูง 5C เชิงพาณิชย์ พัฒนาระบบขับเคลื่อน Smart New BlueCore 3.0 และปรับปรุงระบบจัดการแบตเตอรี่ดิจิทัล iBC นอกจากนี้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ พัฒนาและผลิตสถาปัตยกรรม SDA ระดับโลก พัฒนาระบบปฏิบัติการแบบครบวงจร และสร้างห้องโดยสารอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบหลากหลายโหมดสำหรับทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ CHANGAN Automobile ยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ ระบบขับเคลื่อน และเทคโนโลยีตัวถังรถยนต์ ตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างแท้จริง

CHANGAN Automobile ดำเนินธุรกิจแบบเปิดกว้าง จึงร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในการสำรวจเทคโนโลยีด้านปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ รถยนต์บินได้ และเทคโนโลยีอื่น ๆ พร้อมทั้งสร้างระบบนิเวศใหม่สำหรับการขนส่งที่ครอบคลุมสามมิติ ทั้งทางทะเล ภาคพื้น และอากาศ

CHANGAN Automobile ตั้งเป้ายอดขาย 3 ล้านคันในปี 2568
CHANGAN Automobile มีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและดำเนินกลยุทธ์การขยายธุรกิจระดับโลก จึงได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างท่วมท้น และได้ประกาศเป้าหมายการพัฒนา "3311" สำหรับปี 2568 ประกอบด้วย ยอดขายรวม 3 ล้านคัน รายได้ 3 แสนล้านหยวน ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ 1 ล้านคัน และยอดขายต่างประเทศ 1 ล้านคัน

จากเป้าหมายดังกล่าว CHANGAN Automobile จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานใหม่ 13 รุ่นในปี 2568 อาทิ AVATR 06, DEEPAL S09 และ NEVO C798 ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง เช่น เซลล์แบตเตอรี่อุณหภูมิต่ำและการชาร์จเร็ว นอกจากนี้จะพัฒนาและปรับปรุงตัวถังอัจฉริยะ CHANGAN Tops และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบกระจาย สร้างระบบนิเวศระบบปฏิบัติการ CHANGAN Tops OS ประยุกต์ใช้โมเดลภาษา CHANGAN Tops  และสร้างระบบขับขี่อัจฉริยะ CHANGAN ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ end-to-end มุ่งสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมภายในปี 2570 เต็มรูปแบบ

ในอนาคต CHANGAN Automobile จะต่อยอดความก้าวหน้าและการขยายตัวในปี 2567 เติมเต็มความแข็งแกร่งเพื่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพอีกครั้งในปี 2568 โดย CHANGAN Automobile จะยึดมั่นในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาดิจิทัล ด้วยพลังขับเคลื่อนที่รวดเร็ว พร้อมเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมเทคโนโลยีโมบิลิตี้อัจฉริยะอย่างยั่งยืนและก้าวไปสู่การเป็นแบรนด์ยานยนต์ระดับโลกในท้ายที่สุด

5
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: โรคเรื้อน (Leprosy)

โรคเรื้อน (ขี้ทูต กุฏฐัง ไทกอ หูหนาตาเล่อ โรคใหญ่ โรคพยาธิ เนื้อตาย โรคผิดเนื้อ ก็เรียก) เป็นโรคติดต่อเรื้อรังชนิดหนึ่ง โรคนี้พบได้ทุกภาคของประเทศแต่จะพบมากทางภาคอีสาน ปัจจุบันพบได้น้อยลง (ในปี 2547 พบความชุกของโรคนี้เพียง 0.23 ราย ต่อประชากร 10,000 คน)

โรคเรื้อน สามารถแบ่งออกเป็นหลายชนิด ขึ้นกับระดับความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย ได้แก่

1. โรคเรื้อนไม่ทราบชนิด (indeterminate leprosy) ซึ่งเป็นโรคเรื้อนในระยะเริ่มแรก อาการแสดงยังไม่ชัดเจน ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 2-3 เดือน บางรายอาจมีอาการคงที่อยู่นาน และบางรายอาจแปรเปลี่ยนเป็นโรคเรื้อนชนิดอื่น ๆ

2. โรคเรื้อนชนิดทูเบอร์คูลอยด์ (tuberculoid leprosy) เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในบ้านเรา ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้ขนาดปานกลาง แต่ไม่สามารถขจัดเชื้อได้หมด เชื้อโรคเรื้อนสามารถเจริญได้ช้า ๆ ทำให้ผิวหนังชาและมีการทำลายเส้นประสาทตั้งแต่ในระยะแรก โรคเรื้อนชนิดนี้จะตรวจไม่ค่อยพบเชื้อ และไม่ติดต่อไปยังผู้อื่น การอักเสบมักจะบรรเทาได้เอง ภายใน 1-3 ปี แต่อาจมีอาการพิกลพิการได้

3. โรคเรื้อนชนิดก้ำกึ่ง (borderline leprosy) ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้น้อยกว่าชนิดที่ 2 แต่มากกว่าชนิดที่ 4 อาจตรวจพบเชื้อได้บ้าง แต่ติดต่อไปยังผู้อื่นได้ มีอาการและความรุนแรงก้ำกึ่งระหว่างชนิดทูเบอร์คูลอยด์กับชนิดเลโพรมาตัส

4. โรคเรื้อนชนิดเลโพรมาตัส (lepromatous leprosy) ผู้ป่วยไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้ หรือถ้ามีก็น้อยมาก เชื้อโรคเรื้อนสามารถแบ่งตัวเป็นล้าน ๆ ตัว แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย และตรวจพบเชื้อได้ง่าย จัดเป็นชนิดร้ายแรงและติดต่อได้ง่ายที่สุด เส้นประสาทจะถูกทำลายในระยะท้ายของโรค

นอกจากนี้ยังมีชนิดก้ำกึ่ง-ทูเบอร์คูลอยด์ (borderline-tuberculoid) มีความรุนแรงอยู่ระหว่างชนิดที่ 2 และ 3 และชนิดก้ำกึ่ง-เลโพรมาตัส (borderline-lepromatous) มีความรุนแรงระหว่างชนิดที่ 3 และ 4

สาเหตุ

เกิดจากเชื้อโรคเรื้อน ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีชื่อว่าไมโคแบคทีเรียมเลเพร (Mycobacterium leprae) เชื่อว่าติดต่อโดยการสัมผัสทางผิวหนังหรือสูดเข้าทางเดินหายใจ โรคนี้ติดต่อกันได้ยาก จะต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคเรื้อนระยะติดต่อเป็นเวลานาน ๆ จึงจะรับเชื้อเข้าร่างกาย

ระยะฟักตัว เฉลี่ย 3-5 ปี (ต่ำสุด 6 เดือน และนานสุดเป็นเวลาหลายสิบปี)

ผู้ที่รับเชื้อโรคเรื้อน ไม่จำเป็นจะต้องกลายเป็นโรคเรื้อนทุกราย ทั้งนี้ขึ้นกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้าภูมิคุ้มกันเป็นปกติ มักจะหายได้เองหรือมีอาการอย่างอ่อน (ไม่ร้ายแรง) แต่ถ้าภูมิคุ้มกันผิดปกติ ก็อาจเป็นโรคชนิดร้ายแรงได้

อาการ

ระยะแรก (โรคเรื้อนไม่ทราบชนิด) ผิวหนังจะเป็นวงขาวหรือสีจาง ขอบไม่ชัดเจน ผิวหนังในบริเวณนี้จะมีขนร่วงและเหงื่อออกน้อยกว่าปกติ แต่ยังไม่ค่อยรู้สึกชาและเส้นประสาทเป็นปกติ มักจะพบที่หลัง ก้น แขนและขา ระยะนี้อาจหายได้เอง หรืออาจมีอาการเปลี่ยนแปลงเป็นโรคเรื้อนชนิดอื่น

โรคเรื้อนชนิดทูเบอร์คูลอยด์ ส่วนมากจะมีผื่นเดียวเป็นวงขาว หรือสีจางขอบชัดเจน หรือเป็นวงขาว มีขอบแดงนูนเล็กน้อย หรือเป็นวงขาว ขอบนูนแดงหนาเป็นปื้น อาจมีสะเก็ดเล็กน้อยหรือไม่มีก็ได้ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-10 ซม. ตรงกลางผื่นจะไม่มีขน ไม่มีเหงื่อ และชา (หยิกหรือใช้เข็มแทงไม่เจ็บ หรือใช้สำลีแตะไม่มีความรู้สึก) พบบ่อยที่บริเวณหน้า ลำตัวและก้น โรคเรื้อนชนิดนี้จะตรวจไม่พบเชื้อ

บางครั้งอาจตรวจพบเส้นประสาทบวมโตที่ใต้ผิวหนังในบริเวณที่เป็นโรค หรืออาจคลำได้เส้น ประสาทอัลนา (ulnar nerve) ที่บริเวณด้านในของข้อศอก หรือเส้นประสาทที่ขาพับ (peroneal nerve) ตรงบริเวณใต้หัวเข่าด้านนอก หรือเส้นประสาทใหญ่ใต้หู (great auricular nerve) ตรงด้านข้างของคอ จะมีลักษณะเป็นเส้นแข็ง ๆ และอาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ส่วนมากจะตรวจพบเส้นประสาทบวมโตเพียงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายเท่านั้น

โรคเรื้อนชนิดก้ำกึ่ง-ทูเบอร์คูลอยด์ อาการทางผิวหนังคล้ายกับชนิดทูเบอร์คูลอยด์ แต่จะมีจำนวนผื่นมากกว่า การตรวจเชื้อจากผิวหนังพบได้บ้าง แต่ไม่มากนัก

โรคเรื้อนชนิดก้ำกึ่ง ผิวหนังขึ้นผื่นเป็นวงแหวนหรือวงรี ขอบนูนแดงหนาเป็นมัน ขอบในชัดเจนกว่าขอบนอก ตรงกลางผื่นจะไม่มีขน ไม่มีเหงื่อแบบเดียวกับชนิดทูเบอร์คูลอยด์ และจะชาน้อยกว่าชนิดทูเบอร์คูลอยด์ การตรวจเชื้อจากผิวหนังพบได้บ้างแต่ไม่มากนัก

โรคเรื้อนชนิดก้ำกึ่ง-เลโพรมาตัส และชนิดเลโพรมาตัส จะมีลักษณะคล้ายกัน ต่างกันที่จำนวนและการกระจายของรอยโรค และจำนวนเชื้อที่ตรวจพบจากผิวหนังหรือเยื่อบุจมูก

ผิวหนังจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง ขอบเขตไม่ชัดเจนแล้วต่อมาจะหนาเป็นเม็ด เป็นตุ่มหรือเป็นแผ่น ผิวมักแดงเป็นมันเลื่อม ไม่เจ็บ ไม่คัน ไม่ชา ผื่นตุ่มเหล่านี้จะขึ้นกระจายทั้ง 2 ข้างของร่างกาย พบบ่อยตามใบหน้า ใบหู ข้อศอก ข้อเข่า ลำตัว และก้น ขนคิ้วส่วนนอก (ส่วนหางคิ้ว) มักจะร่วง และขาบวม

ในระยะท้ายของโรค ผิวหนังจะเห่อหนา มีลักษณะหูหนาตาเล่อ และมีเส้นประสาทบวมโตพร้อมกันทั้ง 2 ข้างของร่างกาย เส้นประสาทที่พบได้บ่อย ได้แก่ เส้นประสาทอัลนา และเส้นประสาทใหญ่ใต้หู ทำให้มีอาการชา นิ้วมือนิ้วเท้างอ เหยียดไม่ออก มือหงิก เท้าตก นิ้วกุด หรือตาบอด

เยื่อบุจมูกมักมีอาการอักเสบตั้งแต่ในระยะแรก ๆ (มีอาการคันจมูก น้ำมูกมีเลือดปน) ต่อมาจะมีแผลเปื่อยที่ผนังกั้นจมูก จนทำให้จมูกแหว่ง นอกจากนี้ก็ยังมักจะมีการอักเสบของกระจกตา และเยื่อบุในช่องปากร่วมด้วย

โรคเรื้อนชนิดนี้ มักตรวจพบเชื้อจำนวนมาก แพร่กระจายโรคให้ผู้อื่นได้ง่าย มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาจตายภายใน 10-20 ปี

ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าไม่ได้รับการรักษา เส้นประสาทจะถูกทำลายทำให้มือเท้าชา กล้ามเนื้อมือเท้าอ่อนแรง กล้ามเนื้อฝ่ามือและหลังมือลีบ ข้อมือตก เดินเท้าตก

ถ้าเส้นประสาทที่หน้าเสีย จะทำให้หลับตาไม่ได้ ทำให้ตาอักเสบเป็นแผลกระจกตาและตาบอดได้

ผู้ป่วยมักมีแผลเปื่อยที่มือเท้า เนื่องจากมีอาการชา และอาจทำให้นิ้วมือนิ้วเท้ากุดหายไปได้

ในรายที่เป็นโรคเรื้อนชนิดเลโพรมาตัส อาจติดเชื้อวัณโรคได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ

นอกจากนี้อาจมีการทำลายของกระดูก เป็นหมัน เนื่องจากอัณฑะฝ่อ หรือมีอาการทางไตร่วมด้วย

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ และจะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยทำการขูดผิวหนัง ใส่บนแผ่นกระจกใส และย้อมด้วยสีแอซิดฟาสต์ (acid fast stain) เช่นเดียวกับการตรวจเชื้อวัณโรค ถ้าเป็นชนิดเลโพรมาตัสและชนิดก้ำกึ่ง มักจะพบเชื้อโรคเรื้อน แต่ถ้าเป็นชนิดทูเบอร์คูลอยด์ อาจตรวจไม่พบเชื้อ

นอกจากนี้ อาจทำการผ่าตัดชิ้นเนื้อของผิวหนังและเส้นประสาทที่บวมโตไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เรียกว่า การตรวจชิ้นเนื้อ (biospy)

หรืออาจทำการทดสอบทางผิวหนัง เรียกว่า การทดสอบเลโพรมิน (lepromin test) ซึ่งจะให้ผลบวกในผู้ป่วยชนิดทูเบอร์คูลอยด์ และให้ผลลบในผู้ป่วยชนิดเลโพรมาตัส

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้ยารักษาโรคเรื้อน ซึ่งมีให้เลือกใช้ 3 ชนิดได้แก่ แดปโซน (dapsone) หรือดีดีเอส (diaminodiphenyl sulphone/DDS) ไรแฟมพิซิน (rifampicin) และโคลฟาซิมีน (clofazimine) โดยเลือกใช้ให้เหมาะกับชนิดและความรุนแรงของโรค ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้

1. ประเภทที่ตรวจไม่พบเชื้อ หรือเชื้อน้อยมากจนตรวจไม่พบ ได้แก่ โรคเรื้อนไม่ทราบชนิด ชนิดทูเบอร์คูลอยด์ และชนิดก้ำกึ่ง-ทูเบอร์คูลอยด์ ให้ยาแดปโซน วันละครั้งทุกวันร่วมกับไรแฟมพิซิน เดือนละครั้ง นาน 6 เดือน ถ้าครบ 6 เดือนแล้วตรวจพบว่ามีอาการกำเริบ ให้การรักษาต่ออีก 6 เดือน

หลังจากนั้นควรตรวจร่างกายและตรวจเชื้ออย่างน้อยปีละครั้ง เป็นเวลา 3 ปี

2. ประเภทเชื้อมาก ได้แก่ โรคเรื้อนชนิดก้ำกึ่ง ชนิดก้ำกึ่ง-เลโพรมาตัส และชนิดเลโพรมาตัส ให้ไรแฟมพิซิน ร่วมกับโคลฟาซิมีนเดือนละครั้ง และให้แดปโซนร่วมกับโคลฟาซิมีนวันละครั้งทุกวัน อย่างน้อย 2 ปี จนกว่าตรวจไม่พบเชื้อและอาการไม่กำเริบ

หลังจากนั้นควรตรวจร่างกายและตรวจเชื้ออย่างน้อยปีละครั้ง เป็นเวลา 5 ปี

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคเรื้อนมานาน และพบว่าผิวหนังเป็นวงขาวหรือสีจาง หรือเป็นวงขาวขอบนูนแดงหนาเป็นปื้น ตรงกลางผื่นไม่มีขนไม่มีเหงื่อ และมีอาการชา ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคเรื้อน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ถ้ามีอาการชาของมือเท้า ควรระวังอย่าถูกของร้อน (เช่น บุหรี่ เตาไฟ น้ำร้อน) หรือของมีคม ควรใช้ผ้าพันมือเวลาทำงาน และสวมรองเท้าเวลาออกนอกบ้าน
    ผู้ป่วยควรนอนแยกต่างหากจากผู้อื่น และอย่าใช้เสื้อผ้าและของใช้ร่วมกับผู้อื่น

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มือเท้าชา หรืออ่อนแรง
    มีไข้ ไอเรื้อรัง ไอออกเป็นเลือด น้ำหนักลด
    หลับตาไม่ได้ หรือปวดตา ตาแดง น้ำตาไหล
    เกิดแผลเปื่อยที่มือและเท้า
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีไข้ลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว ตาเหลืองตัวเหลือง หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. อย่าอยู่ใกล้ชิดหรือคลุกคลีกับผู้ป่วยระยะติดต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีเด็กอยู่ในบ้านเดียว กับผู้ป่วย ควรแยกเด็กออกต่างหาก อย่าให้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย จนพ้นระยะติดโรค (ตรวจไม่พบเชื้อบนผิวหนังของผู้ป่วย)

2. อย่าใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และของใช้ร่วมกับผู้ป่วย

3. หมั่นตรวจดูอาการทางผิวหนังของสมาชิกทุกคนในครอบครัวของผู้ป่วย ถ้ามีอาการน่าสงสัย ควรรีบไปตรวจที่โรงพยาบาล

ข้อแนะนำ

1. โรคเรื้อนเป็นโรคที่มีทางรักษาให้หายขาดได้ และถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่มจะสามารถป้องกันมิให้เกิดความพิการได้ ผู้ป่วยควรกินยาตามแพทย์สั่งเป็นประจำอย่าหยุดยาเองจนกว่าแพทย์จะบอกให้เลิก และถ้ามีบาดแผลเกิดขึ้นควรรีบหาหมอโดยเร็วอย่าปล่อยให้ลุกลามจนพิการ

2. ถึงแม้จะรักษาให้พ้นระยะติดต่อ (เชื้อในร่างกายหมดไป) แต่ความพิการที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มักจะเป็นอย่างถาวร แพทย์อาจแก้ไขด้วยการทำศัลยกรรมตกแต่งหรือวิธีการทางการแพทย์บำบัดต่าง ๆ

3. โรคเรื้อนไม่ใช่โรคกรรมพันธุ์ที่ติดไปชั่วลูกชั่วหลาน แต่เป็นโรคติดเชื้อที่ติดต่อได้ยากถ้ามีพ่อหรือแม่เป็นโรคเรื้อน หากแยกลูกอย่าให้ใกล้ชิดด้วยจนกว่าจะพ้นระยะติดต่อ ลูกก็จะไม่เป็นโรคนี้

4. โรคเรื้อนไม่ได้ติดจากสุนัขขี้เรื้อน ไม่ได้เกิดจากการร่วมประเวณีกับผู้หญิงที่มีประจำเดือน ไม่ติดต่อทางอาหารและน้ำ หรือเกิดจากการกินของแสลง เช่น หูฉลาม เป็ด ห่าน เป็นต้น

6
การสร้างอาชีพ จากการขายยำมะเขือย่าง หอมมะเขือเผา กุ้งหวานเด้งรสชาติจัดจ้าน ดีต่อสุขภาพ

อาหารไทยขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่จัดจ้าน วัตถุดิบสดใหม่และรสชาติที่สมดุลลงตัวของรสเผ็ด เปรี้ยว หวานและเค็ม หนึ่งในเมนูที่สะท้อนถึงความกลมกล่อมนี้ได้คือยำมะเขือยาวย่างกับไข่ลวกและกุ้งลวก มีรสชาติเบาๆดีต่อสุขภาพและอัดแน่นไปด้วยกลิ่นควัน เปรี้ยวและเผ็ดร้อน ยำมะเขือย่างมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีส่วนผสมหลักคือ มะเขือยาว ไข่ต้มและกุ้งลวก นำมาคลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้าน

ทำไมคุณถึงจะรักอาหารจานนี้
ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการ : มะเขือยาวอุดมไปด้วยไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ ไข่ให้โปรตีนและไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และกุ้งเป็นแหล่งโปรตีนที่ไม่ติดมัน
สมดุลอันแสนอร่อย : การผสมผสานระหว่างมะเขือยาวเผารมควัน ไข่ลวก และกุ้งฉ่ำน้ำ สร้างเนื้อสัมผัสที่น่าพึงพอใจ
ทำง่าย : เพียงแค่ใช้ส่วนผสมสดใหม่ไม่กี่อย่างและขั้นตอนง่ายๆ คุณก็สามารถทำอาหารไทยยอดนิยมนี้ที่บ้านได้

วัตถุดิบ
เพื่อเสิร์ฟ 2-3 ท่าน คุณจะต้องมี:
มะเขือยาว 2 ลูกใหญ่(พันธุ์เอเชียหรืออิตาลี)
ไข่ต้ม 2 ฟอง(ลวกสุกหรือลวกนิ่มตามชอบ)
กุ้ง 8-10 ตัว ปอกเปลือกและล้างไส้ออก
หอมแดง 1 หัว หั่นบาง ๆ
พริกแดงสับละเอียด1-2 เม็ด
กระเทียมสับ 2 กลีบ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ(หรือซีอิ๊วขาวสำหรับมังสวิรัติ)
น้ำตาลปาล์ม 1 ช้อนชา(หรือน้ำผึ้ง)
ผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
คำแนะนำ

1.ย่างมะเขือยาว
ย่างมะเขือยาวทั้งลูกบนเปลวไฟเปิด ย่างหรืออบในเตาอบโดยใช้ไฟแรงจนผิวเป็นสีดำและด้านในนุ่ม
ปล่อยให้เย็นลงเล็กน้อย จากนั้นลอกเปลือกที่ไหม้ออก หั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วพักไว้

2. ต้มไข่
ต้มไข่ให้สุกตามที่ต้องการ (8 นาทีสำหรับไข่ลวกสุกปานกลาง หรือ 10-12 นาทีสำหรับไข่ลวกสุก)
ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นครึ่ง

3. ลวกกุ้ง
ต้มน้ำในหม้อแล้วใส่กุ้งลงไป ปรุงประมาณ 2 นาทีจนกุ้งเปลี่ยนเป็นสีชมพูและขุ่น
ถอดออกแล้วพักไว้

4. ทำน้ำสลัด
ในชามผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว พริกสับ กระเทียม และหอมแดง คนจนน้ำตาลละลาย

5. ประกอบสลัด
จัดวางมะเขือยาวเผา กุ้ง และไข่ลงบนจาน
ราดน้ำสลัดลงบนสลัดแล้วคลุกเบาๆ
ตกแต่งด้วยผักชีซอยและต้นหอม

คำแนะนำการเสิร์ฟ
เสิร์ฟสลัดนี้เปล่าๆ เป็นอาหารจานเบาๆ หรือทานกับข้าวหอมมะลินึ่งเพื่อให้อิ่มท้องยิ่งขึ้น
จับคู่กับอาหารไทยอื่น ๆ เช่นต้มยำหรือส้มตำเพื่อมื้ออาหารสไตล์ไทยที่สมบูรณ์

สลัดมะเขือยาวย่างกับไข่ลวกและกุ้งลวกเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติที่สดชื่น เข้มข้น และมีกลิ่นควัน สลัดนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำง่าย และเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพลิดเพลินกับอาหารไทยแท้ๆ ที่บ้าน ลองทำวันนี้และสัมผัสกับรสชาติอันแสนอร่อยของประเทศไทย

7
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษา เข้าพบทันตแพทย์น้อยลง

การจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจ เนื่องจากการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสนั้น สามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับปัญหาฟันในหลายกรณีที่มักพบเจอได้บ่อย ตัวอย่างเช่น ฟันซ้อน ฟันห่าง ฟันเก ฟันที่มีการสบกันผิดปกติ ซึ่งทำให้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะในเรื่องของบุคลิกภาพและการรับประทานอาหาร เพราะถ้าหากเรามีฟันที่ซ้อนกันก็อาจทำให้เราบดเคี้ยวอาหารได้ลำบากยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้เราอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเช่น อาการปวดท้อง


เนื่องจากการที่เราบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด อาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้ เพราะฉะนั้น การเข้ารับการจัดฟันจึงสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกกรณี ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เครื่องมือการจัดฟันแบบใสยังมีจุดเด่นนั่นก็คือ สามารถถอดเข้าออกได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะปัญหาหลักๆของผู้ที่เข้ารับการจัดฟันส่วนใหญ่ก็อาจจะมีอุปสรรคในเรื่องของเครื่องมือที่ติดตั้งอยู่ภายในช่องปาก ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้ยากขึ้น ทำให้ออกเสียงไม่ชัด รวมไปถึงในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟันอาจจะทำได้ไม่สะอาดเท่าที่ควร การจัดฟันแบบใสจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันใช้ชีวิตได้ตามปกติ

แต่อย่างไรก็ตามการจัดฟันแบบใสก็เหมือนกับการจัดฟันด้วยวิธีอื่นๆ แต่จะมีจุดเด่นในเรื่องของเครื่องมือและความสะดวกสบาย การดูแลรักษา รวมไปถึงผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยครั้งเหมือนกับการจัดฟันแบบทั่วไปซึ่ง วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการเข้าพบทันตแพทย์ของผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใสว่าเข้าพบทันตแพทย์น้อยกว่าผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบทั่วไปจริงหรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้กับหลายคนที่อาจจะไม่มีเวลาเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใส


ซึ่งการเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยครั้ง ซึ่งนี่ถือว่าเป็นข้อดีอีกข้อที่ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องกังวลในเรื่องของเวลาที่ต้องเข้าพบทันตแพทย์ เพราะการรักษาด้วยการจัดฟันแบบ โดยปกติแล้วพบแพทย์น้อยกว่าการจัดฟันบางประเภทอยู่แล้ว แต่ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องเข้าพบทันตแพทย์ประมาณทุก 6-8 สัปดาห์เพื่อดูความคืบหน้าของการจัดฟันและรับเครื่องมือจัดฟันชุดต่อไป

ซึ่งเครื่องมือการจัดฟันแบบใสแต่ละชุดนั้น ก็ความแตกต่างกัน เพราะในการเคลื่อนที่บางอย่างอาจต้องมีส่วนนูนเพื่อช่วยให้อุปกรณ์จัดฟันยึดเกาะกับฟัน ก็ขึ้นอยู่กับว่า
ผู้เข้ารับการจัดฟันสวมใส่เครื่องมือเป็นประจำหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการจัดฟันแบบใสนั้น ถึงแม้จะมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาที่จะทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องอาศัยความร่วมมือกับผู้เข้ารับการจัดฟัน ที่จะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันเป็นประจำ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องรักษาความสะอาดของเครื่องมือ และหลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องมือขณะรับประทานอาหาร เพราะอาจจะทำให้เครื่องมือการจัดฟันนั้นเสียหายได้นั่นเอง


สำหรับการจัดฟันแบบใส จะเริ่มแสดงผลลัพธ์ให้เห็นใน 2-3 เดือน หลังจากที่เริ่มรักษา โดยระยะเวลาของการรักษาทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาและการประเมินของทันตแพทย์ด้วย รวมไปถึงความร่วมมือของผู้เข้ารับการจัดฟัน แต่ส่วนใหญ่การรักษาเฉลี่ยสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 12 -18 เดือน สำหรับวัยรุ่น ระยะเวลาการรักษาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ลักษณะของฟันด้วย อย่างไรก็ตาม หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมทั้งยังได้ขั้นสูงสุดของ invisalign จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณจะมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน

8
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


9
ปล่อยรถป้ายแดง Hyundai H1 2.5 Elite Ns ปี 2022 ฟรีประกันชั้น1 ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

Hyundai H1 2.5 Elite NS ปี 2022 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) ขนาดใหญ่ 11 ที่นั่ง ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยความกว้างขวาง ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่า ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ เช่น รถรับส่ง

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 11 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 2568
วารันตีศูนย์ 5ปี ถึง150,000 โล,ประกันชั้น1 เหลือ11 เดือน
ฟิล์มกันรอยทั้งคัน,book service กุญแจครบ2 ดอก
รับประกันไม่มีชนหนัก พลิกคว่ำ น้ำท่วม ไมล์แท้ การันตี

ราคาพิเศษ 1,090,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ขุมพลังและสมรรถนะ

เครื่องยนต์: ดีเซล รหัส D4CB แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว
ขนาด 2,497 ซีซี (2.5 ลิตร)
เทอร์โบแปรผัน (Variable Geometry Turbocharger - VGT) พร้อม Intercooler
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง: Commonrail Direct Injection
กำลังสูงสุด: 175 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด: 441 นิวตันเมตร ที่ 2,000 - 2,250 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อม Sequential Shift
มาตรฐานไอเสีย: EURO 4
ความจุถังน้ำมัน: 75 ลิตร
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง


10
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


11
คอนโดติดรถไฟฟ้า เคฟ ทาวน์ โคโลนี (Kave Town Colony)
เริ่มต้น 1.49 ลบ.

เคฟ ทาวน์ โคโลนี (Kave Town Colony)
พบคอนโดโครงการใหม่กับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมส่วนกลางกว่า 30 โซน อุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยถึง 5 Steps Security ใกล้ Mingle Community Mall ในโครงการ ใกล้ม.กรุงเทพ รังสิต เดินทางสะดวกด้วยทางด่วนโทลเวย์ และ BTS สายสีแดง สถานีม.กรุงเทพ

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             เคฟ ทาวน์ โคโลนี (Kave Town Colony)
 เจ้าของโครงการ        แอสเซทไวส์
 แบรนด์ย่อย             เคฟ
 ราคา                    เริ่มต้น 1.49 ลบ.
 คำนวณเงินผ่อน        คำนวณเงินผ่อนโครงการนี้

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.       เริ่มต้น 67,000 บ./ตร.ม.
 ลักษณะทำเล             คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด           Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี           สตูดิโอ, 1 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี             ตั้งแต่ 21.20 ถึง 35.60 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด             10 ไร่ 86 ตร.ว.
 จำนวนตึก                  4 อาคาร
 จำนวนชั้น                  8 ชั้น
 จำนวนห้อง               1,083 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด         คิดเป็น 35% หรือ 381 คัน (รวมจอดซ้อนคัน)
 ค่าบำรุงส่วนกลาง       49.00 บ./ตร.ม.
 สาธารณูปโภค            สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card, อื่นๆ (Divergent Bridge, Amphitheater, Floating Deck, Big Tree Sunken, Laundry Room, Live & Shooting Studio, Vending Machine Corner, Lobby Cafe?, Co-Kitchen, Co-Party, Kave Theater, Kave Music Studio, Cover Dance & Yoga), Co-Working Space, ห้องประชุม

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน            ปทุมธานี, คลองหลวง, ธัญบุรี, ลำลูกกา
 ที่ตั้ง            ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
Mingle Mall
บุญถาวร
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
มหาวิทยาลัยรังสิต
โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์

12
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


13
ปล่อยรถป้ายแดง Mercedes-Benz EQS 500 4Matic AMG Premium ปี 2023

Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC AMG Premium ปี 2023 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ระดับเรือธงของ Mercedes-EQ ที่นำเสนอความหรูหราล้ำสมัย สมรรถนะอันทรงพลัง และเทคโนโลยีสุดล้ำ โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศไทย ทำให้มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่นำเข้า

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 12 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 2568
รถไฟฟ้า วิ่งไกล 770 กม.
ส่วนลด 2,110,000 บาท
วารันตี เริ่ม 20/10/2023 – 21/10/ 2026

ราคาพิเศษ 5,090,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

มิติตัวถัง
EQS เป็นรถซีดานขนาดใหญ่ที่ให้ความกว้างขวางและสง่างาม:

ความยาว: 5,216 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,926 มิลลิเมตร (2,125 มม. รวมกระจกมองข้าง)
ความสูง: 1,512 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ: 3,210 มิลลิเมตร
ความจุห้องเก็บสัมภาระท้าย: 610 – 1,770 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)
น้ำหนักตัวรถเปล่า: 2,655 กิโลกรัม (EU)

ขุมพลังและสมรรถนะ (Dual Motor 4MATIC AWD)

รุ่น EQS 500 4MATIC AMG Premium มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4MATIC) ให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม:

มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Dual Permanent Magnet Synchronous Motors) ติดตั้งที่เพลาหน้าและหลัง
กำลังรวมสูงสุด: 330 kW หรือประมาณ 449 แรงม้า (HP)
แรงบิดรวมสูงสุด: 828 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: Lithium-ion (จาก CATL)
ความจุแบตเตอรี่ (ใช้งานได้): 108.4 kWh (บางข้อมูลระบุ 107.8 kWh)
ระยะทางวิ่งสูงสุด (WLTP): 672 กิโลเมตร (บางข้อมูลระบุ 702 กม. หรือ 590 กม. WLTP)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 4.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.

การชาร์จไฟฟ้า:
AC Charging (Type 2): รองรับสูงสุด 11 kW (ชาร์จ 0-100% ในประมาณ 11 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 12 ชั่วโมง 45 นาที)
DC Fast Charging (CCS2): รองรับสูงสุด 150 kW (บางแหล่งระบุสูงสุด 207 kW) ชาร์จจาก 10-80% ในประมาณ 28-31 นาที
มีฟังก์ชัน Battery Preconditioning


14
motor expo 2025: The all-new, fully electric Audi S6 e-tron เปิดตัวแล้วในไทย ทรงพลังที่สุด ออปชันจัดเต็ม พละกำลัง 551 แรงม้า ด้วย 2 รุ่น คือ Avant และSportback

อาวดี้ ประเทศไทย ยกระดับไปอีกขั้น ปูทางสู่ความสำเร็จด้วยกลยุทธ์ Product Offensive มุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร ตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาดีไซน์ทันสมัย สมรรถนะการขับขี่ที่  เร้าใจ และการใช้งานที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ อาว้านท์ (Avant) ถือเป็นอีกหนึ่งไอคอนโมเดลที่ อาวดี้ ประเทศไทย เลือกเปิดเกมรุกตลาดรถยนต์พรีเมียม และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด Performance Car ครั้งแรกที่อาวดี้ได้นำ Avant legacy รูปทรงที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นเอกลักษณ์ผสานกับสมรรถนะของรถไฟฟ้า e-tron ไอคอนโมเดลที่แฟนอาวดี้ทั่วโลกชื่นชอบ ครั้งนี้ถูกนำเสนอในรูปแบบรถ Performance ในตระกูล S model ถูกออกแบบและพัฒนาให้เป็น Avant ที่ทรงพลัง ขับสนุกและสมบูรณ์แบบที่สุด รถในสไตล์ Avant ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ถือเป็นรุ่นที่แฟนอาวดี้ทั่วโลกรอคอย พร้อมเปิดตัว 2 รุ่น คือ Audi S6 Avant e-tron quattro และ Audi S6 Sportback e-tron quattro

The all-new, fully electric Audi S6 e-tron เป็นการนำเสนอไอคอนโมเดลในตระกูล Avant ที่ผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์กับสมรรถนะของรถไฟฟ้า e-tron ที่แฟนอาวดี้ทั่วโลกเฝ้ารอคอย โดยการเปิดตัวครั้งนี้อาวดี้ได้ยกระดับAvant ในตระกูล S model เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด
 
Audi S6 Avant e-tron quattro โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์แห่ง Avant ดีไซน์เสา D ใหม่ ออกแบบให้มีความลาดเอียงมากขึ้น เส้นกรอบกระจกที่วิ่งยาวรอบตัวรถ เสริมมิติให้ตัวรถดูพุ่งทะยานและปราดเปรียวกว่าเดิม สะท้อนความเป็นPerformance Car เข้ากับลุคสปอร์ตพรีเมียมได้อย่างลงตัว Audi S6 Avant e-tron ยังมอบความอเนกประสงค์เหนือระดับด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ 1,422 ลิตร

Audi S6 Sportback e-tron quattro อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหาความพรีเมียมและความเร้าใจในทุกเส้นทาง ดีไซน์สปอร์ต 4 ประตู เน้นเส้นสายอันเฉียบคม ผสานดีไซน์ด้านท้ายที่ลาดเอียง ช่วยเสริมความสปอร์ตและความล้ำสมัยให้กับตัวรถ มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่กว้างขวางถึง 1,330 ลิตร ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ พร้อมให้คุณสัมผัสความสะดวกสบายอันเหนือระดับ

การออกแบบที่ลงตัว

The all-new, fully electric Audi S6 e-tron ตกแต่งภายนอกแบบ S model รอบคัน ด้วยสี matte aluminum สะท้อนความเป็นรถ Performance อย่างเต็มขั้น มาพร้อมล้อดีไซน์ใหม่ multi-spoke S ขนาด 21 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง

โดดเด่นด้วยไฟหน้า Matrix LED พร้อมเอฟเฟกต์ไฟ Digital light signatures หน้า-หลัง ที่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ได้มากถึง 8 รูปแบบ เพิ่มความสปอร์ตด้วยไฟท้าย Digital OLED พร้อม taillight signatures ที่พาดยาวทั้งตัวรถด้านหลังและเสริมความล้ำสมัยด้วย Illuminated Audi rings โลโก้ไฟเรืองด้านหลังแบบ 2 มิติ

ภายในตกแต่งด้วย Carbon Square Structure พร้อมตกแต่งตราสัญลักษณ์ S ที่พวงมาลัย เบาะคู่หน้า และกาบประตูทั้ง 2 ฝั่ง มอบ DNA ความสปอร์ตตามแบบฉบับ S model

ที่สุดแห่งสมรรถนะ S model จากขุมพลังไฟฟ้า e-tron

The all-new, fully electric Audi S6 e-tron ยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นแรกในรูปทรง Avant ที่ได้รับการพัฒนาโดยใช้แพลตฟอร์มไฟฟ้าระดับพรีเมียม (Premium Platform Electric – PPE) ตามมาตรฐานรถไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่จาก Audi ช่วยยกระดับการขับขี่ในทุกมิติ Audi S6 e-tron มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงสุดถึง 551 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 855 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที ให้สมรรถนะเทียบเคียงกับรถ High Performance อย่าง Audi RS 6 Avant performance ที่ต่างกันแค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ทำความเร็วสูงสุด 240 กม. / ชม. มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยช่วงล่างถุงลมแบบสปอร์ต Adaptive S air suspension ที่ออกแบบพิเศษเพื่อให้เหมาะกับสมรรถนะของ S model สามารถปรับสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและไดนามิกได้ตามต้องการ ทำงานคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-quattro มอบการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้นและการขับขี่ที่สนุกมั่นใจยิ่งกว่าเดิม

Audi S6 e-tron ให้ระยะการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ไกลถึง 647 กิโลเมตร (WLTP) ในรูปทรง Avant และ 675 กิโลเมตร (WLTP) ในรูปทรง Sportback พร้อมรองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 270 kW ด้วยกระแสไฟ DC โดยใช้เวลาเพียง 21 นาที ในการชาร์จจาก 10-80% พร้อมออกเดินทางได้อย่างรวดเร็ว
 
ครบครันด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยเพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

Audi ออกแบบเทคโนโลยีฟังก์ชันเพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด รวมถึงการใช้วัสดุที่พรีเมียมทั้งผิวสัมผัสและการออกแบบที่ทันสมัย โดยมีจุดเด่น ดังนี้
Switchable Panoramic Glass Roof หลังคากระจกพาโนรามิคที่สามารถปรับการใช้งานได้มากถึง 6 รูปแบบ พร้อม UV Sunscreen เพื่อป้องกันแสงแดดและรังสียูวี

เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยลาย Waterfall stitching และสัญลักษณ์ S มาพร้อมระบบปรับไฟฟ้าและฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่
มอบความเอ็กซ์คลูซีฟภายในห้องโดยสารด้วย Dynamic interaction light ที่แสดงเอฟเฟกต์ไฟตามการ  ขับขี่ เช่น การเปิดไฟเลี้ยว และแสดงระดับแบตเตอรี่ขณะชาร์จ
Smart Door Panel แผงควบคุมอัจฉริยะที่ประตูข้างคนขับ จุดศูนย์รวมของฟังก์ชันสำคัญต่างๆ ในรถ
ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ รายล้อมด้วยลำโพง 17 ตำแหน่ง

หน้าจอ Curved MMI Panoramic Display ที่โค้งเข้าหาผู้ขับขี่ เพื่อการใช้งานที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น มาพร้อม Audi virtual cockpit plus ขนาด 11.9 นิ้ว หน้าจอระบบสัมผัส MMI touch display ขนาด 14.5 นิ้ว และ MMI front passenger display ขนาด 10.9 นิ้ว มอบความเพลิดเพลินให้ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง

Augmented Reality Head-Up Display ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้าแบบเสมือนจริง เช่น ระบบช่วยขับขี่ ระบบนำทาง และสัญญาณเตือนต่างๆ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน อีกทั้งยังสามารถปรับตำแหน่งของภาพให้เหมาะสมกับมุมมองของผู้ขับขี่ได้ตามต้องการ

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังแบบสปอร์ต ดีไซน์ตัดบนและตัดล่าง พร้อม Paddle shift และตราสัญลักษณ์ S
ฝากระโปรงหน้ามาพร้อมระบบเปิดอัตโนมัติแบบ Gesture Control เพียงปัดมือผ่านฝากระโปรงหน้าเหนือโลโก้ Audi rings

ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า (Frunk) ขนาด 27 ลิตร
Projection Light ไฟแสดงตำแหน่งสำหรับการเตะเปิด-ปิดฝาท้ายแบบอัตโนมัติ
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

The all-new, fully electric Audi S6 e-tron มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยและครบครัน
ระบบควบคุมความเร็วแปรผันและรักษาระยะห่างด้านหน้า (Adaptive cruise control with Stop&Go function)
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุแบบด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง (Proactive occupant protection, front side and rear)
แจ้งเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Front emergency brake assist)
ระบบช่วยหักเลี้ยวพวงมาลัยในกรณีฉุกเฉิน (Swerve assist)
ระบบช่วยเบรกเมื่อเลี้ยวรถที่ทางแยก (Turn assist)
ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก (Front cross traffic assist)
ระบบแจ้งเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า (Distance warning)
ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง (Rear cross-traffic assist)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane change warning)
ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane departure warning)
ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถ เมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ (Exit warning)
ระบบเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Fatigue warning)
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (360-degree cameras)
ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (Park assist plus)

The all-new, fully electric Audi S6 e-tron สุดยอดยนตรกรรมที่ผสมผสานความลงตัวและความสมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Avant สะท้อนอัตลักษณ์เฉพาะของ Audi ควบคู่กับสมรรถนะอันทรงพลังของเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า e-tron เต็มเปี่ยมไปด้วย DNA จาก Audi Sport เสริมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างครบครัน อีกทั้งยังมี Body type แบบ Sportback อีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์สปอร์ตที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น เปิดให้จองแล้ววันนี้ที่โชว์รูมอาวดี้ ทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวในราคา
Audi S6 Avant e-tron quattro เปิดตัวในราคา 5,899,000 บาท
Audi S6 Sportback e-tron quattro เปิดตัวในราคา 5,899,000 บาท

The all-new, fully electric Audi S6 e-tron มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี
Malpelo blue, metallic (สีใหม่)
Siam beige, metallic
Glacier white, metallic
Mythos black, metallic
Plasma blue, metallic
Daytona grey, pearl effect*

 (*สีพิเศษเพิ่มเติมจากราคามาตรฐาน 50,000 บาท ซึ่งราคาข้างต้นได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

15
จัดฟันบางนา: จัดฟันแบบใส Invisalign เพื่อบุคลิกที่ดูดี ฟันสวย
 
การเข้ารับการจัดฟัน ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยในการแก้ไปขปัญหาฟัน และเป็นที่แพร่หลายมาก เพราะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างแท้จริง ประกอบกันช่วยทำให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันนั้นมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในแต่ละแบบก็จะมีข้อแตกต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่การเลือกการจัดฟัน เวลาที่เราจะไปเข้ารับการตรวจประเมินช่องปาก ทางทันตแพทย์ก็จะทำการพิจารณาและจะแนะนำรูปแบบการจัดฟันให้เหมาะสมกับปัญหาของเรา

เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและสามารถแก้ไขปัญหาได้จริง สำหรับการจัดฟัน เป็นการรักษาทางทันตกรรมอบ่างหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันผิดปกติ มีผลให้รูปปากและโครงหน้าดูไม่สมส่วน เช่น ฟันซ้อนเก ฟันบิดเบี้ยว ฟันยื่น ทำให้ดูปากอูม การสบฟันลึก โดยจะใช้เครื่องมือจัดฟันโดยทำการเคลื่อนฟันกลับไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ

ซึ่งก็มีการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่งที่จะทำให้เรามีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ แม้ขณะอยู่ในระหว่างจัดฟัน เพราะการจัดฟันแบบใสจะมีเครื่องมือการจัดฟันต่างจากรูปแบบอื่น เพราะมีลักษณะใส บางเรียบ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปเดิมได้ แม้จะมีฟันที่ซ้อนเกมากและสามารถถอดเข้าออกได้ สำหรับวันนี้คลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแบบใส เพื่อความสวยงาม เสริมบุคลิกภาพและมีฟันสวยเป็นธรรมชาติ
 
สำหรับการจัดฟันแบบใส ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแบบใสและเครื่องมอการจัดฟันก่อน เพราะนวัตกรรมการจัดฟันแบบใส ค่อนข้างมีความทันสมัยและเป้นที่นิยมมาก รวมไปถึงเครื่องมือจัดฟันแบบใส มีข้อดีเหนือกว่าเครื่องมือแบบเหล็กเพราะมีความใสและมองแทบไม่เห็น เนื่องจากเครื่องมือทำจากพลาสติกใส จึงอาจเหมาะกับผู้เข้ารับการจัดฟันที่เป็นผู้ใหญ่ และเหมาะสมกับคนในยุคปัจจุบัน

เพราะมีความสะดวกสบาย ยิ่งคนที่ไม่ชอบเหล็กจัดฟัน หรือผู้เข้ารับการจัดฟันที่มีอาชีพที่ต้องใช้บุคลิกภาพ ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะการจัดฟันแบบใส ยังสามารถช่วยส่งเสริมในเรื่องของบุคลิกภาพของได้อย่างมั่นใจ สามารถพูดคุยได้อย่างสะดวก โดยไม่มีปัญหาในเรื่องของการออกเสียง เพราะเครื่องมือที่ผู้เข้ารับการจัดฟันสวมใส่มีความกระชับพอดีกับช่องปากของผู้เข้ารับการจัดฟัน เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใสถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล


จึงทำให้มีความพอดีกับช่องปาก ที่สำคัญก็คือ เครื่องมือการจัดฟันยังสามารถถอดเข้าออกได้ จึงทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ นอกจากนี้ เครื่องมือการจัดฟันแบบใสดูแลง่าย ไม่ต้องกลัวเครื่องมือหลุด แปรงฟันและทำความสะอาดง่ายและทั่วถึง จึงช่วยลดโอกาสที่ฟันจะผุ ช่วยลดโอกาสการเป็นโรคเหงือก จึงช่วยทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับช่องปาก เพราะฉะนั้น การจัดฟันแบบใส ยังช่วยส่งเสริมในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการจัดฟันได้เป็นอย่างดี จึงส่งผลทำให้มีฟันที่สวยงามและแข็งแรง


หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันแบบใส และมีประสบการณ์การจัดฟันมาอย่างยาวนานในด้านทันตกรรม พร้อมทั้งทางคลินิกของเรายังได้การรับรองสูงสุดจาก Invisalign ให้สามารถให้บริการทางด้านการจัดฟันแบบใสได้ตามมาตรฐานสากล และยังมีความน่าเชื่อถือ จึงมั่นใจได้ว่า ผู้เข้ารับการจัดฟันจากทางคลินิกของเราจะมีความปลอดภัยและผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน ช่วยทำให้คุณมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น มีบุคลิกภาพที่มั่นใจมากยิ่งขึ้น มีรอยยิ้มที่สวยงาม สดใส และยังช่วยทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันทีฟันที่สวยงาม เป็นบุคลิกภาพที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น

หน้า: [1] 2 3 ... 35