"บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์" และ บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ วีซ่า ซิกเนเจอร์ (บัตรฯ ซีรีส์ใหม่ดังกล่าว) ให้เพื่อนๆ ได้รู้ว่า นอกจากจะโดดเด่นเรื่อง "คะแนนสะสม" ที่ให้มากหลายเท่าแล้ว คะแนนที่ได้รับนั้นก็สามารถเอาไปแลกบินกับสายการบินต่างๆ ได้มากมาย และยังคงเก็บจุดแข็ง เรื่องเติมน้ำมันแล้วได้รับเครดิตเงินคืนจากตัวซีรีส์ไดร์ฟไว้ให้ด้วย
โดยเราจะดูกัน 2 บัตร ก็คือ บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ (ทั้งด้านหน้า/ด้านหลัง) และบัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ วีซ่า ซิกเนเจอร์ (ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเช่นกัน) ตามภาพด้านล่างนี้เลย
ตัวบัตรเป็นสีน้ำเงินเข้มและมีความเป็นประกายของเพชรอยู่ตรงกลาง (สมชื่อ Blue Diamond) หลักๆ แล้วบัตรเครดิตทั้งสองประเภท ก็จะประกอบไปด้วย..
ด้านหน้าบัตร
หมายเลขบัตรเครดิต 16 หลัก
ชื่อ-สกุลผู้ถือบัตร
เดือน/ ปี ที่บัตรหมดอายุ
ด้านหลังบัตร
แถบแม่เหล็ก
แถบลายเซ็น
รหัส CVV
โดยความแตกต่างระหว่างบัตรเครดิตทั้งสองประเภทในส่วนของรูปร่างหน้าตาในด้านหน้าก็คือ สัญลักษณ์ MasterCard และ VISA และสัญลักษณ์ Cirrus และ PLUS ในด้านหลัง ส่วนอีกจุดที่สำคัญก็คือ บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดนั้นมีคำว่า "WORLD" อยู่ตรงหัวมุมบนด้านซ้าย บัตรเครดิตวีซ่านั้นมีคำว่า "Signature" อยู่ตรงมุมล่างด้านขวาของตัวบัตร แสดงให้เห็นถึงระดับของบัตรที่ชัดเจน... ไปดูต่อในส่วนของสิทธิประโยชน์ที่โดดเด่นของบัตรฯ กันเลยดีกว่า
สิทธิประโยชน์อันโดดเด่นของบัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ (MasterCard / VISA)
ยิ่งเที่ยวมาก ยิ่งได้รับคะแนนสะสม T-Rewards มาก สูงสุดถึง 4 เท่า
ในส่วนของคะแนนสะสม T-Rewards นั้นถือว่าเป็นอีกเรื่องที่มีความโดดเด่นอยู่พอสมควรค่ะ เพราะด้วยการให้คะแนนสะสมที่พิเศษสูงสุดถึง 4 เท่า เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ส่วนจะมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่นั้น.. ตามไปดูกันเลย!
ทุกการใช้จ่ายปกติในหมวดทั่วไป 25 บาท จะได้รับคะแนนสะสม T-Rewards 1 คะแนน (25 บาท = 1 คะแนน) และจะได้ รับคะแนนสะสมสูงสุด 4 เท่า เมื่อใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ไล่ระดับลงมาเรื่อยๆ ตามหมวดที่แสดงในตาราง ซึ่งก็ถือว่าเป็นการให้คะแนนสะสมที่อยู่ในระดับดีมากอีกหนึ่งบัตร และคงเป็นที่ถูกใจสำหรับสายสะสมคะแนนที่ชอบเที่ยวไปต่างประเทศมากๆ เลยค่ะ
อายุคะแนนสะสม T-Rewards
คะแนนสะสม T-Rewards นั้นมีอายุการใช้งาน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีการสรุปยอดบัญชีของแต่ละรอบ กรณีที่บัตรหมดอายุ หรือว่าผู้ถือบัตรทำการยกเลิกการใช้บัตร ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คะแนนสะสมก็จะหมดอายุลงไปด้วยทันที
จากที่เราได้กล่าวไปคร่าวๆ แล้ว กับเรื่องคะแนนสะสม T-Rewards ที่มีให้มากสูงสุดถึง 4 เท่า เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ตามหมวดที่กำหนดนั้น เราลองมาเจาะลึกลงไปอีกว่า คะแนนสะสมนั้นสามารถนำไปแลกเป็นของรางวัลอะไรได้บ้าง?
คะแนนสะสม T-Rewards นำไปแลกอะไรได้บ้าง?
นำไปแลกเป็นเครดิตเงินคืน
ทุกๆ 1,000 คะแนน รับเครดิตเงินคืน 100 บาท
นำไปแลกเป็นหน่วยลงทุน T-Cash
ทุกๆ 1,000 คะแนน แลกรับหน่วยลงทุนในกองทุน T-Cash 100 บาท
คะแนน T-Rewards แลกเป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวมากกว่า 100 เส้นทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน, โรงแรม, แพ็กเกจทัวร์ ฯลฯ กับ GLOBAL UNION EXPRESS โดยทุกๆ 1,000 คะแนน ใช้แทนส่วนลด 100 บาท
Accessories
Electronic & Gadget
Home, Bath, and Kitchen 1
Home, Bath, and Kitchen 2
Hot Pick
Centara The 1Card
คะแนนสะสม T-Rewards กับการแลกเป็นไมล์ของสายการบินชั้นนำต่างๆ
คะแนน Flyer Bonus สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
อัตราการแลกทุกๆ 1,000 คะแนน T-Rewards = 500 คะแนน Flyer Bonus (2 คะแนนสะสม : 1 ฟลายเออร์โบนัส) เทียบเท่าทุกการใช้จ่ายปกติ 50 บาท แลกได้ 1 คะแนนฟลายเออร์โบนัส
คะแนน BIG Points สายการบินแอร์เอเชีย
อัตราการแลกทุกๆ 2 คะแนน T-Rewards = 1 คะแนน BIG Point (2 คะแนนสะสม : 1 คะแนน BIG Point) เทียบเท่าทุกการใช้จ่ายปกติ 50 บาท แลกได้ 1 คะแนน Big Point
เปรียบเทียบอัตราการแลกคะแนนเป็นไมล์สะสมสายการบินของบัตรเครดิตระดับใกล้เคียงกัน
Flyer Bonus ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
บัตรเครดิต KTC WORLD REWARDS MASTERCARD ทุกการใช้จ่ายปกติ 25 บาท รับ 1 คะแนน
- อัตราแลก 1,000 Forever Rewards = 500 Flyer Bonus [2 : 1] (เทียบเท่าทุกการใช้จ่ายปกติ 50 บาท แลกได้ 1 Flyer Bonus)
บัตรเครดิต SCB MY TRAVEL ทุกการใช้จ่ายปกติ 20 บาท รับ 2 คะแนน
- อัตราแลก 2,000 SCB Rewards = 1,000 Flyer Bonus [2 : 1] (เทียบเท่าทุกการใช้จ่ายปกติ 20 บาท แลกได้ 1 Flyer Bonus)
BIG Points ของสายการบินแอร์เอเชีย
บัตรเครดิต SCB MY TRAVEL ทุกการใช้จ่ายปกติ 20 บาท รับ 2 คะแนน
- อัตราแลก 1,500 SCB Rewards = 1,000 BIG POINT [1.5 : 1] (เทียบเท่าทุกการใช้จ่ายปกติ 15 บาท แลกได้ 1 BIG POINT)
บัตรเครดิต KTC WORLD REWARDS MASTERCARD ทุกการใช้จ่ายปกติ 25 บาท รับ 1 คะแนน
- อัตราแลก 2 KTC Forever Rewards = 1 BIG POINT [2 : 1] (เทียบเท่าทุกการใช้จ่ายปกติ 50 บาท แลกได้ 1 BIG POINT)
ข้อสังเกต : คะแนนสะสม T-Rewards จากบัตรเครดิตธนชาต ไม่สามารถแลกเป็นไมล์สะสมของสายการบินไทยได้ ซึ่งอาจจะทำให้ไม่เด่นเท่าบัตรเครดิตอื่นๆ ที่อยู่ในระดับใกล้เคียง ถ้าเพิ่มสิทธิประโยชน์ในส่วนนี้ได้ก็น่าจะดีค่ะ
หากพิจารณาจากอัตราการใช้จ่ายปกติ อาจจะเห็นว่าคะแนนสะสม 1 คะแนน จากการใช้จ่าย 25 บาท นั้นแบงก์ไหนๆ ก็ให้อัตราการสะสมเท่านี้ แต่อย่าลืมนะคะว่า.. บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ นั้นมีข้อได้เปรียบคือ คะแนน Double สูงสุดถึง 4 เท่า เมื่อใช้จ่ายตามหมวดที่กำหนด ถ้าคิดว่าคะแนนสะสม 4 เท่านั้นไกลไป (เพราะต้องใช้จ่ายถึงต่างประเทศ) งั้นลองมองมาที่คะแนนสะสม 3 เท่า เมื่อใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยว หรือ 2 เท่า ในหมวดร้านอาหาร ก็ถือว่าเงื่อนไขในการสะสมคะแนนนั้นทำได้ไม่ยากเลยค่ะ
ขับขี่อย่างสบายใจ เติมน้ำมันได้ทุกปั๊ม พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3.5%
ถือเป็นความโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดเลย คือ เรื่องของการให้เครดิตเงินคืนเวลาที่เราไปเติมน้ำมันที่ปั๊มไหนก็ได้ อย่างบัตรเครดิตอื่นๆ ที่อาจจะกำหนดเงื่อนไขเอาไว้ว่าจะได้รับเงินคืนเยอะๆ ต้องไปเติมที่ปั๊มนั้นปั๊มนี้ แต่สำหรับบัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ ไม่ต้องคิดให้เมื่อยตุ้มค่ะ เพราะเติมปั๊มไหนก็ได้เงินคืน ไปดูกันค่ะว่าการคืนเงินของเค้านั้นมีลำดับขั้นตอนยังไง?
บัตรเครดิต ยอดใช้จ่ายชำระค่าน้ำมัน/ ต่อเดือน เครดิตเงินคืนของยอดใช้จ่ายค่าน้ำมัน คะแนนสะสม T-Rewards
บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 5,000 บาท 3.1% 0.4%
ตั้งแต่ 5,001 - 10,000 บาท 1.5% 0.4%
บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ วีซ่า ซิกเนเจอร์ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 5,000 บาท 2.1% 0.4%
ตั้งแต่ 5,001 - 10,000 บาท 1.5% 0.4%
จากตารางจะแสดงให้เห็นว่าบัตรเครดิตประเภทมาสเตอร์การ์ดนั้น ให้เครดิตเงินคืนสูงสุดอยู่ที่ 3.5% ส่วนบัตรเครดิตประเภทวีซ่านั้นให้เครดิตเงินคืนสูงสุด 2.5% ค่ะ จะขอยกตัวอย่างให้ดูว่า ถ้าเราเติมเงินด้วยบัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ จำนวน 5,000 บาท เราจะได้รับเงินคืนเป็นจำนวนเงินกี่บาท?
ตัวเลข 3.5% นั้นมาจากไหน? มาจาก "เครดิตเงินคืน 3.1% รวมกับคะแนนสะสม T-Rewards อีก 0.4% นั่นเอง" ต่อไปเราลองไปเจาะลึกดูกันว่า เครดิตเงินคืน 3.5% นั้น
คุ้มหรือไม่? โดยการคืนเงินนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
ถ้ามียอดเติมน้ำมันน้อยกว่า 5,000 บาท จะได้รับเงินคืน 3.1%
ยอดเติมน้ำมันตั้งแต่ 5,001 - 10,000 บาท จะได้รับเงินคืน 1.5%
ตัวอย่าง : ถ้าสมมติว่าเราเติมน้ำมันด้วยบัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ 5,000 บาท ต่อเดือน (หรือต่อรอบบัญชี) จะได้รับเงินคืน 3.1% ซึ่งจะเท่ากับ
5,000 x 3.1% = 155 บาท
พร้อมทั้งจะได้รับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 0.4% โดยทุกๆ 25 บาท คิดเป็น 1 คะแนน (ไม่นับเศษสตางค์) จะเท่ากับ
5,000 / 25 = 200 คะแนน
และคะแนนสะสม T-Rewards ทุกๆ 100 คะแนน จะมีมูลค่าเท่ากับ 10 บาท เพื่อแลกรับเป็นเครดิตเงินคืนค่าน้ำมัน หรือบัตรกำนัล หรือของกำนัลอื่นๆ ตามที่ธนาคารธนชาตนั้นกำหนดเอาไว้ และ 200 คะแนน ที่เราได้มาจะเท่ากับ
200 / 10 = 20 บาท
ดังนั้น ถ้ารวมเครดิตเงินคืนทั้งหมด 3.5% ที่ได้รับจากการเติมน้ำมัน 5,000 บาท จะเท่ากับ
155 + 20 = 175 บาท (จำกัดการคืนเงินสูงสุดไม่เกิน 230 บาท ต่อรอบบัญชี)
*หมายเหตุ : วิธีการคิดคำนวณเครดิตเงินคืนของบัตรประเภทวีซ่า ก็คิดในทำนองเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนจำนวนสูงสุดในการคืนจาก 3.5% เป็น 2.5% ดังนี้
ตัวอย่าง : ถ้าสมมติว่าเราเติมน้ำมันด้วยบัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ วีซ่า ซิกเนเจอร์ 5,000 บาท ต่อเดือน (หรือต่อรอบบัญชี) จะได้รับเงินคืน 2.1% ซึ่งจะเท่ากับ
5,000 x 2.1% = 105 บาท
พร้อมทั้งจะได้รับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 0.4% โดยทุกๆ 25 บาท คิดเป็น 1 คะแนน (ไม่นับเศษสตางค์) จะเท่ากับ
5,000 / 25 = 200 คะแนน
และคะแนนสะสม T-Rewards ทุกๆ 100 คะแนน จะมีมูลค่าเท่ากับ 10 บาท เพื่อแลกรับเป็นเครดิตเงินคืนค่าน้ำมัน หรือบัตรกำนัล หรือของกำนัลอื่นๆ ตามที่ธนาคารธนชาตนั้นกำหนดเอาไว้ และ 200 คะแนน ที่เราได้มาจะเท่ากับ
200 / 10 = 20 บาท
ดังนั้น ถ้ารวมเครดิตเงินคืนทั้งหมด 3.5% ที่ได้รับจากการเติมน้ำมัน 5,000 บาท จะเท่ากับ
105 + 20 = 125 บาท (จำกัดการคืนเงินสูงสุดไม่เกิน 155 บาท ต่อรอบบัญชี)
สมัครบัตรเครดิต "บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์" ยิ่งใช้ยิ่งคุ้ม! รับคะแนนสะสม 4 เท่า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/creditcard/