ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านสวยโคราช: ทิศทางลมและแสงแดด สำคัญอย่างไร? กับการออกแบบบ้านและการอยู่อาศัย  (อ่าน 221 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 253
    • ดูรายละเอียด
ก่อนจะสร้างบ้านสักหลัง จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลหลาย ๆ ด้านมาประกอบกัน หนึ่งในนั้นคือ ทิศทางลมและแสงแดด ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันแรก ๆ เพราะหากบ้านหันถูกทิศทางลมแล้ว บ้านจะไม่ร้อน แถมเย็นสบายตลอดปี และยังสามารถช่วยประหยัดพลังงาน เปิดเครื่องปรับอากาศน้อยลง หรือเปิดไฟเพียงเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น จะมาแนะนำการดูทิศทางลมและแสงแดด เพื่อนำมาสร้างบ้านคุณภาพหรือเลือกซื้อบ้านให้ถูกหลัก ทำให้เราอยู่อาศัยได้ยาวนานและมีความสุขกันทั้งครอบครัว

 
บ้านควรหันรับลมในทิศทางไหน?

หากเรารู้และเข้าใจเรื่องทิศทางลมที่ถูกต้อง จะทำให้บ้านมีช่องทางลมพัดเข้าออกหมุนเวียนดี ไม่ร้อน และเย็นสบาย ซึ่งสำหรับในประเทศไทยนั้นมี 3 ฤดู แต่ละฤดูมีทิศทางลมพัดผ่านไม่เหมือนกัน ในช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนมีนาคม - พฤษภาคม จะมีลมพัดมาจากทางทิศใต้ ช่วยลดความร้อนของอากาศได้ดี ช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายน - พฤศจิกายน เป็นลมมรสุม พัดมาจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ลมหนาวจะถูกพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ  ดังนั้นเมื่อรู้ทิศทางลมแล้วควรหันบ้านให้ถูกทิศ เพื่อที่จะรับลมได้ถูกต้อง

1. ทิศใต้ เป็นทิศที่ทำให้บ้านเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว หากหน้าบ้านหันไปทางทิศนี้จะดีมาก ลมเข้าบ้านได้มากที่สุด ทำให้อากาศไหลเวียนดี ฉะนั้นไม่แนะนำให้ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ตรงหน้าบ้าน เพราะจะเป็นการบังลม และถ้ามีบ่อน้ำหรือสระน้ำไว้หน้าบ้าน จะช่วยเพิ่มความเย็นมากขึ้น เพราะลมจะเอาความชื้นของน้ำพัดพาเข้าสู่ตัวบ้านนั่นเอ

2. ทิศตะวันตก เป็นทิศที่อยู่ในแนวของร่องลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้หรือลมมรสุมฤดูร้อนพัดผ่าน หากหน้าบ้านหันมาในทิศนี้ จะทำให้บ้านพบความเสียหายจากพายุฝนได้ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ สามารถแก้ไขด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ในทิศนี้ ซึ่งจะช่วยลดความแรงลมพายุฝนไม่ให้สาดเข้าบ้านได้ แต่ต้องปลูกให้ห่างจากตัวบ้านพอสมควร และไม่ควรปล่อยให้ต้นไม้สูงมากนัก เพื่อป้องกันต้นไม้ล้มทับหากเจอลมพายุแรง

3. ทิศตะวันออก ทิศนี้เป็นทิศที่ลมหนาวพัดผ่าน ดังนั้น ในฤดูหนาว อากาศจะดี เย็นสบาย แต่ไม่ดีสำหรับฤดูร้อนเพราะอากาศจะอบอ้าว ตามหลักฮวงจุ้ย เป็นทิศที่ไม่ดีนัก อาจจะทำให้คนในบ้านสุขภาพไม่ค่อยดี เจ็บป่วยบ่อยได้

4. ทิศเหนือ เป็นทิศที่รับลมหนาวจากประเทศจีน และแสงแดดไม่ค่อยส่องไปถึงภายในตัวบ้าน จึงทำให้บ้านเย็นสบายตลอด ในฤดูหนาวลมจะเข้าทางหน้าบ้าน จึงรับลมหนาวเต็ม ๆ แสงแดดส่องน้อย อาจจะทำให้บ้านเกิดความอับชื้นได้ และการระบายอากาศไม่ค่อยดี อาจจะต้องดูแลใส่ใจทำความสะอาดมากเป็นพิเศษ


 
ทิศทางแสงแดดที่ควรรู้

ในหนึ่งวันแสงแดดหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามทิศต่าง ๆ เริ่มจากช่วงเช้าแสงอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันออก เวียนไปทิศใต้ และแสงแดดหมดทางทิศตะวันตก ซึ่งทิศที่ไม่โดนแสงแดดเลย คือ ทิศเหนือ ฉะนั้นการขึ้นและลงของพระอาทิตย์จึงมีผลต่อความร้อนที่สาดส่องเข้ามาในบ้าน ในช่วงที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดของวัน คือ ช่วงเที่ยงถึงบ่าย ดังนั้นทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศตะวันตกจึงได้รับอิทธิพลจากแสงแดดเฉลี่ยมากที่สุด

1. ทิศเหนือ เป็นทิศที่ไม่ค่อยโดนแสงแดดส่อง ทำให้ทั้งวันได้รับความร้อนจากแสงแดดน้อยมาก รวมไปถึงตลอดทั้งปีด้วย จึงทำให้บริเวณนี้เย็นสบายอยู่ตลอด ดังนั้นห้องที่เหมาะอยู่ทางทิศนี้ควรเป็น ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก

2. ทิศใต้ เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งปี แต่มีลมธรรมชาติพัดผ่านตลอดทำให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทได้ดี เพื่อทำให้มีอากาศเย็นสบายขึ้น ควรปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มเงาจะช่วยลดความร้อนได้มากขึ้น

3. ทิศตะวันออก เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดเพียงครึ่งวันเท่านั้น แสงแดดไม่แรงมาก จึงทำให้ไม่ค่อยร้อนมากนัก เปิดรับแสงแดดยามเช้าได้ดี ห้องที่อยู่ทางทิศนี้ควรเป็นห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น

4. ทิศตะวันตก ทิศนี้ถือว่าเป็นทิศที่ได้รับอิทธิพลความร้อนมากที่สุด เพราะแสงแดดส่องตั้งแต่บ่ายไปจนถึงตอนเย็น ทำให้ห้องที่อยู่ทิศนี้ร้อนตลอดทั้งวัน ดังนั้น ห้องที่อยู่ทางทิศนี้เหมาะจะเป็นห้องน้ำ หรือห้องซักล้าง เป็นต้น


ดังนั้นก่อนที่จะสร้างบ้านหรือเลือกซื้อบ้าน เราควรเข้าใจและให้ความสำคัญในเรื่องทิศทางลมและแสงแดด ซึ่งปกติแล้ว บริษัทรับสร้างบ้านจะออกแบบและจัดวางแต่ละห้องไว้ในทิศทางที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่ถ้าเรามีความรู้ในเรื่องพวกนี้จะช่วยให้เข้าใจการออกแบบบ้านง่ายขึ้นด้วย ทำให้ได้บ้านที่ถูกใจ คนในครอบครัวจะได้อยู่บ้านหลังนี้อย่างมีความสุขและอาศัยไปอีกนาน


บ้านสวยโคราช: ทิศทางลมและแสงแดด สำคัญอย่างไร? กับการออกแบบบ้านและการอยู่อาศัย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/home1/

xapp

  • บุคคลทั่วไป